วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คาถา บูชาเสด็จพ่อ (รัชกาลที่ ๕)




อานิสงฆ์ของการสวด: เพื่อความเป็นสิริมงคล หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ทำมาค้าขายราบรื่น


ตั้งนะโม ๓ จบ 


             พระสะยามะมินโท  วะโร  อิติ  พุทธะสังมิ  อิติอะระหัง 
          สะหัสสะกายัง  วะรัง  พุทโธ  นะโม  พุทธายะ
          ปิยะ  มะมะ  นะโม  พุทธายะ

คาถา ขอลาภพระอุปคุต


   อานิสงฆ์ของการสวด: มั่งมี ร่ำรวยเงินทองพบกับโชคลาภ



ตั้งนะโม ๓ จบ 

พระอุปคุตโต   พระอุปคุตตัง 
ลาภะสุขัง  ภวัน ตุ เม

คาถาเรียกลาภ


อานิสงฆ์ของการสวดมน : คาถาบทนี้สวดเป็นประจำเรียกเงิน  เรียกทอง ทำมาค้าขายร่ำรวย



ตั้งนะโม ๓ จบ 

นะโมพุทธายะ  อิมะมะมามา
มะอะอุ  อุอะมะ  นะมะพะทะ

(หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล)

คาถาเรียกทรัพย์



อานิสงส์ของการสวด : คาถาบทนี้สวดเป็นประจำ เรียกเงิน เรียกทอง ทำมาค้าขาย ร่ำรวย


                                                           ตั้งนโม ๓ จบ
         
         นะมามีมา  มหาลาภา  อิติ  พุทธัสสะ  สุวัณณัง  วา
         ระชะตัง  วา มณี วา ธนัง วา พีชัง วา อัตถัง วา ปัตถัง 
         วา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติ มีนา นะมามิหัง 

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทสวดอิติปิโสรัตนมาลา


      บทสวดอิติปิโสรัตนมาลา จึงแปลความหมายได้ว่า มหาลัยแห่งรัตนอันเกิดแต่อิติปิโส เป็นต้น บทสวดทุกบทในอิติปิโสรัตนมาลานี้ถือเป็นสุดยอดมหามงคล มีผลอานิสงฆ์ ๑๐๘ ประการ หากผู้ใดได้สวดภาวนาย่อมเจริญวัฒนาสถาพรด้วยสิ่งอนเป็นมงคล ปราศจากเคราะห์ร้าย เสนียดจัญไร พรั่งพร้อมด้วยสริสวัสดิ์ รุ่งเรืองเป็นนิรันดร์



(นะโม ๓ จบ)

พุทธคุณมาลา ๕๖

          "อิติปิ  โส  ภะควา  อะระหัง  สัมมาสัมพุทธโธ วิชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร  ปุริสะทัมมะสาระถิ  สัตถา  เทวะมะนุสสานัง พุทธโธ ภะคะวะติ"
                                             

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทสัพมงคลคาถา

     เป็นบทสวดขออำนาจเเห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ และอำนาจของเหล่าเทวดา จงรักษาผู้สวดให้มีความสุขสวัสดีและให้ประสบกับสิ่งที่เป็นมงคลทั้งหลายตลอดกาลทุกเมื่อ


     ภะวะตุ สัพพะมังคะรัง   รักขันตุสัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ        ทะสา โสตถี ภะวันตุ  เม*
     ภะวะตุ สัพพะมังคะรัง   รักขันตุสัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ         ทะสา โสตถี ภะวันตุ  เม* 
     ภะวะตุ สัพพะมังคะรัง   รักขันตุสัพพะเทวะตา   
สัพพะสังฆานุภาเวนะ         ทะสา โสตถี ภะวันตุ  เม* ฯ


วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์



สัพเพ สัตตา,
     สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ,
     จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ,
     จงเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ,
     จงเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหพรันตุ,
     จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสินเถิด

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ทางธรรม: บทแผ่เมตตาให้ตนเอง

ทางธรรม: บทแผ่เมตตาให้ตนเอง:      การแผ่เมตตาให้แก่ตน  กระทำเพื่อให้จิตใจสดชื่นและมีกำลังพร้อมที่จะแผ่เมตตาให้กับผู้อื่น บทนี้ให้ว่าคำแปลด้วย อหัง สุขิโต ( หญิงว่า ...

บทแผ่เมตตาให้ตนเอง



     การแผ่เมตตาให้แก่ตน  กระทำเพื่อให้จิตใจสดชื่นและมีกำลังพร้อมที่จะแผ่เมตตาให้กับผู้อื่น บทนี้ให้ว่าคำแปลด้วย


อหัง สุขิโต (หญิงว่า สุขิตา) โหมิ,
       ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข (หญิงว่า นิททุกขา) โหมิ,
        ปราศจากความทุกข์
อะเวโร (หยิงว่า อะเวรา) โหมิ,
       ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ (หญิงว่า อัพยาปัชฌา) โหมิ,
       ปราศจากอุปสรรคอันตรายและความเบียดเบียนทั้งปวง
อะนีโฆ(หญิงว่า อะนีฆา) โหมิ,
       ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ,
       มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยภัยทั้งสิ้นเถิด
       

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คำอาราธนาศิล 5



     มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ,ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะสีลานิ ยาจามะ ฯ
     ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ,ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะสีลานิ ยาจามะ ฯ
     ตติยัมปิ มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ,ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะสีลานิ ยาจามะ ฯ



แปลว่า

     ข้าพเจ้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศิล ๕ พร้อมกันสรณะสามเผื่อการรักษาเป็นแผนกๆ (เป็นข้อๆ) แม้ครั้งที่สอง........แม้ครั้งที่สาม.......
     นี้ สำหรับการอาราธณาตั้งแต่สองคนขึ้ไป ถ้าอาราธณาคนเดียวให้อาราธณาขั้นต้นด้วย อะหัง ลงท้าด้วยยามิ ฯ

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อานิสงส์ของการสวดมน



๑. ได้ความขยัน    ขณะสวดมนต์ ความรู้สึกเบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกลียดคล้าน จะหมดไป เกิดความแช่มชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น
๒. จิตใจผ่องใส   เพราะขณะนั้นจิตใจของเราไปหน่วงอยู่ที่การสวดมนต์ไม่คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลงจึงไม่ได้ กล้ำกลายเข้าสู่วาระจิต
๓. ได้ปัญญา   การสวดมนต์ โดยรู้คำแปล รู้ความหมาย ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญา ความรู้ แทนที่จะสวดแจ้วๆ เหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไม่รู้อะไรเลย เป็นเหตุให้ถูกค่อนว่า ทำอะไรตามเค้า
๔. จิตเป็นสมาธิ   เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดได้หน้าลืมหลัง เมื่อจิตเป็นสมาธิ ความสงบเยือกเย็นจะเกิดขึ้น
๕. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า   ขณะนั้นผู้สวดมีกาย วาจาปกติ (มีศิล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้สึกระลึกถึงพระพุทธเจ้า (มีปัญญา) เท่ากับได้เฝ้าพระพุทธองค์ด้วยการปฏิบัติบูชาเคารพไตรสิกขาอย่างแท้จริง
๖. ได้ความสุข เกิดปิติในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในพระธรรมคำสอนที่มีเหตุผล ประพฤติปฏิบัติตามได้ความสุขจริงๆ
๗.   ได้ความไม่ประมาท ชีวิตมีเวลาน้อย อยู่ไม่ถึงร้อยปีก่อต้องจากโลกเดินทางต่อไปและไปคนเดียว ต้องรีบละบาปอกุศล เร่งสร้างบุญบารมี และรีบเจริญสติกำหนดรูป-นาม อันเป็นอัปปมาทธรรมก่อนที่จะจากโลกนี้ไป โชคดีหนอที่เราได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เป็นพุทธมามะกะ ฯ

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทสรรเสริญพระสังฆคุณ




           สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ 
           อูชุปฏิปันโน   ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ     
           ญายะปฏิปันโน  ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ  
           สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต   สาวะกะสังโฆ  
           ยะทิทัง   จัตตาริ   ปุริสะยุคานิ
           อัฏฐะ   ปุริสะปุคะลา 
           เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
           อาหุเนยโย ปาหุเนยโย 
           ทักขิเนยโย  อัญชะลีกะระณีโย 
           อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ ฯ       

        พระสงฆ์สาวกของผู่มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
        พระสงฆ์สาวกของผู่มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติตรง
        พระสงฆ์สาวกของผู่มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความรู้ (สัจจธรรม)
        พระสงฆ์สาวกของผู่มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติชอบ
        พระสงฆ์สาวกของผู่มีพระภาคนั้นจัดเป็นบุรุษที่สี่คู่
        เป็นบุรุษบุคคลแปดเป็นผู้ควรบูชา เป็นผู้ควรรับทักษิณา
        เป็นผู้ควรกราบไหว้ เป็นเนื้อนาบุญของโลก หาสิ่งอื่นเปรียบมิได้ ฯ
 
       
       

บทสรรเสริญพระธรรมคุณ



           สวากขาโต   ภะคะวะตา   ธัมโม   สันทิฏฐิโก
           อะกาลิโก   เอหิปัสสิโก   โอปะนะยิโก   ปัจจัตตัง
           เวทิตัพโพ   วิญญูหีติ ฯ

           พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว
           อันผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง
           ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา
           ควรเรียกให้มาดู  ควรน้อมเข้ามา (ในตน)
           อันผู้รู้ควรรู้ได้ด้วนตนเอง ฯ

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทสรรเสริญพระพุทธคุณ



       อิติปิโส   ภะคะวา   อะระหัง   สัมมาสัมพุทธโธ
       วิชชาจะระนะสัมปันโน   สุคะโต   โลกะวิทู
       อะนุตตะโร   ปุริสะทัมมะสาระถิ
       สัตถา   เทวะมะนุสสานัง   พุทโธ   ภะคะวาติ ฯ

บทนำกราบ พระรัตนตรัย


        อะระ  หังสัมมาสัมพุทธโธ  ภะคะวา,
        พุทธัง  ภะคะวันตัง  อะภิวาเทมิ ฯ     (กราบ)

     
        สวากขาโต  ภะคะวะตา  โธมโม,
        ธัมมัง  นะมัสสามิ ฯ     (กราบ)

        สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ,
        สังฆังนะมามิ  (กราบ)  



     อิมานิ  สักกาเรนะ  พุทธัง  อะภิปูชะยามิ
     อิมานิ  สักกาเรนะ  ธัมมัง  อะภิปูชะยามิ
     อิมานิ  สักกาเรนะ  สังฆัง  อะภิปูชะยามิ

                

 นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ  
 นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ
 นะโม  ตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ
 

บทเคารพครูอาจารย์



ปาเจราจะริยะ โหนติ   คุณุตตารานุสาสะกา
ปัญญาวุฑฒิกะเร เต เต   ทินโนวาเท นะมามิหัง
             

                     ครูบาอาจารย์เป็นผู้ทรงคุณอันยิ่งเป็นผู้พร่ำสอนศิลปวิทยา
             ข้าพเจ้าขอนอบน้อมครูบาอาจารย์เหล่านั้นผู่ให้โอวาสผู้ทำปัญญาให้เจริญฯ

บทเคารพคุณมารดาบิดา




อะนันตะคุณะสัมปันนา    ชะเนตติชะนะกา อุโภ,
มัยหัง มาตาปิตูนังวะ          ปาเท วันทามิ  สาทะรัง

                           มารดาบิดาทั้งสองเป็นผู้ถือพร้อมด้วยคุณอันหาที่สุดมิได้  ข้าพเจ้าขอ
                     ไหว้เท้าทั้งสองของบิดามารดาของข้าเจ้าด้วยเคารพอย่างสูง ฯ

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

 
 
 
โกรธใคร
เกลียดใคร
ก็แผ่เมตตา....
ให้เขาไป
อย่าไปแช่งชัก
หักกระดูกเขา
เดี๋ยวมันจะเข้าตัวเรา
 
ถ้าแผ่เมตตาให้ตัวเขา
ก็จะสะท้อนกลับมาหาเราเองเหมือนกัน
 
หลวงพ่อ จรัญ ฐิตธมฺโม

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สวดมนต์ไหว้พระภาวนาทุกค่ำเช้า เป็นมงคลแก่ชีวิต



หากใครสวดมนต์ไหว้พระ
เจริญวิปัสสนากรรมฐานโดยต่อเนื่อง
สร้างความดีให้ติดต่อกัน
สร้างความดี   ถูกตัวบุคคล
ถูกสถานที่   ถูกเวลา
ต่อเนื่องกันเสมอต้นเสมอปลายแล้ว
คนนั้นจะได้รับผลดี 100 %
และจะเอาดีในชาตินี้ได้
ไม่ต้องรอดีถึงชาติหน้า 
 
หลวงพ่อจรัญ ฐีตธมฺโม

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พระท่านสอน ความจริงของชีวิต




ชีวิตคน ย่อมแบรผัน
สิงสำคัญ อย่าประมาท
สิ่งผิดพลาด  คือบทเรียน
สิ่งภาคเพียร คือลาภผล
สิ่งช่วยตน คือปัญญา
สิ่งบูชา คือบุญคุณ
สิ่งค้ำจุล คือแม่พ่อ
ผู้เสริมต่อ คือครูบาอาจารย์
สิ่งบันดาล คือเงินตรา
อดทนปรารถนา คือความสุข
สิ่งเปลื้องทุกข์ คือศิลทาน
สิ่งสำราญ คือความชั่ว 
สิ่งเมามัว คือความอยาก
พาลำบาก คือเกลียดคล้าน
ใจเบิกบาน คือไม่มีหนี้
ความป่นปี้ คืออบายมุข
พาให้สุข คือธรรมะ
ไม่หมดภาระ คือยังไม่ตาย
เลิกวุ่นวาย คือนิพาน
สวนธรรม (วัดป่า ฯ อุดร)